พระคุณของพ่อแม่มากล้นหาที่ประมาณมิได้ ดุจดั่งมหาสมุทรสุดลึกและกว้างไกลไร้ขอบเขต ควรหรือที่ลูกจะมองข้ามท่านทั้งสองผู้เป็นบุพการีที่ให้ชีวิตแก่ลูก จะกล่าวว่าพ่อแม่เป็นพระเจ้าของลูกก็ไม่ผิด เพราะว่าท่านเป็นผู้สร้างชีวิตของลูก ถ้าท่านทั้งสองไม่ปรารถนาจะให้ลูกเกิด ลูกก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เกิดมาดูโลก การที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ ในแต่ละภพแต่ละชาตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะเหตุว่าการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศลกรรม เป็นผลของทาน ศีล สมาธิ ในชาติปางก่อน
พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก เป็นบุรพาจารย์ที่มีความรู้และรอบรู้สารพัด สามารถอบรมสั่งสอนลูกได้ทุกวิชาตามประสบการณ์ หรือตามความสามารถของท่าน พ่อแม่สอนลูกให้พูด ยืน เดิน นั่ง นอน มีกิริยามารยาทที่ดีงาม สอนให้ลูกรู้จักเคารพนบนอบ กราบไหว้และอ่อนน้อมต่อบุคคลผู้ควรเคารพกราบไหว้
เพราะว่าการเคารพ กราบไหว้หรือแสดงคารวะ เป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่ลูกควรประพฤติและปฏิบัติ
ตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อโตไปะได้เป็นผู้ใหญ่ที่มีมารยาทงาม มีสัมมาคารวะ พ่อแม่สอนแต่สิ่งดี ๆ เพื่อที่จะให้ลูกมีคุณสมบัติที่ดีเพรียบพร้อมด้วยคุณธรรมต่าง ๆ ท่านสอนให้ลูกรู้จักคำว่า "กตัญญูกตเวที" คือสอนให้รู้จักบุญคุณคน ด้วยการสอนให้รู้จักกล่าวคำว่า "ขอบคุณ" เมื่อได้รับสิ่งของหรือได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะว่าเป็นการแสดงถึงจิตใจที่ดีงาม ไม่ต้องตอบแทนด้วยสิ่งของอันใด แต่เพียงกล่าวขอบคุณเท่านั้น ผู้ได้ยินก็ชื่นใจแล้ว ที่ได้เห็นการแสดงมารยาทที่ดีงาม ซึ่งเป็นมารยาทสากลที่ชนทุกชาติเขาประพฤติกัน พ่อแม่ทราบดีว่าความกตัญญูกตเวที เป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานของคนทั่วไป แต่ก็เป็นเครื่องหมายของ "คนดี" เพราะผู้ที่รู้จักบุญคุณคน เป็นผู้ที่ไม่กล้ากระทำทุจริตกรรมใด ๆ จะเป็นผู้ที่มีแต่ความเจริญในชีวิต ดังนั้น พ่อแม่จึงได้หมั่นอบรมสั่งสอนลูก ให้ฝึกและปฏิบัติสม่ำเสมอจนเป็นอุปนิสัยติดตัว นอกจากนั้นยังมีคุณธรรมที่พ่อแม่อบรมลูกอยู่บ่อย ๆ คือ หิริโอตตัปปะ สอนให้ลูกรู้จักมีความละอายและสะดุ้งต่อการกระทำอกุศลกรรมทุกประเภท เพราะเหตุว่าท่านทั้งสองปรารถนาที่จะให้ลูกรักของตนเป็นคนดีของพ่อแม่และเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติด้วย พ่อแม่เป็นครูบาอาจารย์ที่สอนได้เก่งมาก แม้กระทั่งวิชาการบ้านการครัวและงานสวนหรืองานไร่นา แล้วแต่สภาพและฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ท่านรู้อะไรดีก็อยากให้ลูกได้รู้ได้เรียน เพื่อเป็นทรัพย์ติดตัวนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวัน
พ่อแม่เป็นเทวดาของลูก ๆ เพราะเหตุว่า ท่านคอยปกป้องค้มครองลูกมาตลอด ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง ท่านก็คอยเฝ้าระวังไม่ให้ลูก ได้รับอันตรายจากอาหารที่แม่รับประทานเข้าไป ต้องเลือกเฟ้นอาหารที่ปลอดสารพิษ ต้องระวังไม่ให้เจ็บไข้ ถ้าแม่ไม่สบายลูกในท้องก็จะกระทบกระเทือนไปด้วย แม้กระทั่งจิตใจของท่านก็ต้องระวังด้วย ท่านจะพยายามทำจิตใจให้เบิกบาน เพื่อที่ลูกจะได้มีจิตใจเบิกบานด้วย เกิดมาก็จะได้เป็นเด็กที่ร่าเริง พ่อแม่ช่วยกันบำรุงเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ท่านพยายามศึกษาหาความรู้เรื่องอาหารการกิน เพื่อที่จะได้บำรุงเลี้ยงดูลูกอย่างถูกหลักอนามัย ลูกจะได้มีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยบ่อย ถึงแม้ว่าลูกจะโตเป็นผู้ใหญ่ รู้จักรับผิดชอบตนเองหรือสามารถยืนด้วยยลำแข้งของตนได้แล้วก็ตาม แต่ท่านทั้งสองก็ยังเป็นห่วงใยคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ แม้อยู่ไกลแค่ไหนก็เหมือนใกล้ไม่ห่างเหิน ท่านคอยให้กำลังใจยามลูกท้อแท้แก้ปัญหาไม่ได้ ท่านเป็นเพื่อนปรับทุกข์ ช่วยคลี่คลายทุกข์หนักให้เป็นเบา ยามป่วยไข้ช่วยดูแลรักษา ด้วยเหตุย่อ ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ท่านจึงเป็นเสมือนเทวดาประจำตัวของลูกตลอดชีวิตก็ว่าได้
(ยังมีต่ออีก)
พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก เป็นบุรพาจารย์ที่มีความรู้และรอบรู้สารพัด สามารถอบรมสั่งสอนลูกได้ทุกวิชาตามประสบการณ์ หรือตามความสามารถของท่าน พ่อแม่สอนลูกให้พูด ยืน เดิน นั่ง นอน มีกิริยามารยาทที่ดีงาม สอนให้ลูกรู้จักเคารพนบนอบ กราบไหว้และอ่อนน้อมต่อบุคคลผู้ควรเคารพกราบไหว้
เพราะว่าการเคารพ กราบไหว้หรือแสดงคารวะ เป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่ลูกควรประพฤติและปฏิบัติ
ตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อโตไปะได้เป็นผู้ใหญ่ที่มีมารยาทงาม มีสัมมาคารวะ พ่อแม่สอนแต่สิ่งดี ๆ เพื่อที่จะให้ลูกมีคุณสมบัติที่ดีเพรียบพร้อมด้วยคุณธรรมต่าง ๆ ท่านสอนให้ลูกรู้จักคำว่า "กตัญญูกตเวที" คือสอนให้รู้จักบุญคุณคน ด้วยการสอนให้รู้จักกล่าวคำว่า "ขอบคุณ" เมื่อได้รับสิ่งของหรือได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพราะว่าเป็นการแสดงถึงจิตใจที่ดีงาม ไม่ต้องตอบแทนด้วยสิ่งของอันใด แต่เพียงกล่าวขอบคุณเท่านั้น ผู้ได้ยินก็ชื่นใจแล้ว ที่ได้เห็นการแสดงมารยาทที่ดีงาม ซึ่งเป็นมารยาทสากลที่ชนทุกชาติเขาประพฤติกัน พ่อแม่ทราบดีว่าความกตัญญูกตเวที เป็นคุณธรรมขั้นพื้นฐานของคนทั่วไป แต่ก็เป็นเครื่องหมายของ "คนดี" เพราะผู้ที่รู้จักบุญคุณคน เป็นผู้ที่ไม่กล้ากระทำทุจริตกรรมใด ๆ จะเป็นผู้ที่มีแต่ความเจริญในชีวิต ดังนั้น พ่อแม่จึงได้หมั่นอบรมสั่งสอนลูก ให้ฝึกและปฏิบัติสม่ำเสมอจนเป็นอุปนิสัยติดตัว นอกจากนั้นยังมีคุณธรรมที่พ่อแม่อบรมลูกอยู่บ่อย ๆ คือ หิริโอตตัปปะ สอนให้ลูกรู้จักมีความละอายและสะดุ้งต่อการกระทำอกุศลกรรมทุกประเภท เพราะเหตุว่าท่านทั้งสองปรารถนาที่จะให้ลูกรักของตนเป็นคนดีของพ่อแม่และเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติด้วย พ่อแม่เป็นครูบาอาจารย์ที่สอนได้เก่งมาก แม้กระทั่งวิชาการบ้านการครัวและงานสวนหรืองานไร่นา แล้วแต่สภาพและฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ท่านรู้อะไรดีก็อยากให้ลูกได้รู้ได้เรียน เพื่อเป็นทรัพย์ติดตัวนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวัน
พ่อแม่เป็นเทวดาของลูก ๆ เพราะเหตุว่า ท่านคอยปกป้องค้มครองลูกมาตลอด ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง ท่านก็คอยเฝ้าระวังไม่ให้ลูก ได้รับอันตรายจากอาหารที่แม่รับประทานเข้าไป ต้องเลือกเฟ้นอาหารที่ปลอดสารพิษ ต้องระวังไม่ให้เจ็บไข้ ถ้าแม่ไม่สบายลูกในท้องก็จะกระทบกระเทือนไปด้วย แม้กระทั่งจิตใจของท่านก็ต้องระวังด้วย ท่านจะพยายามทำจิตใจให้เบิกบาน เพื่อที่ลูกจะได้มีจิตใจเบิกบานด้วย เกิดมาก็จะได้เป็นเด็กที่ร่าเริง พ่อแม่ช่วยกันบำรุงเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ท่านพยายามศึกษาหาความรู้เรื่องอาหารการกิน เพื่อที่จะได้บำรุงเลี้ยงดูลูกอย่างถูกหลักอนามัย ลูกจะได้มีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยบ่อย ถึงแม้ว่าลูกจะโตเป็นผู้ใหญ่ รู้จักรับผิดชอบตนเองหรือสามารถยืนด้วยยลำแข้งของตนได้แล้วก็ตาม แต่ท่านทั้งสองก็ยังเป็นห่วงใยคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ แม้อยู่ไกลแค่ไหนก็เหมือนใกล้ไม่ห่างเหิน ท่านคอยให้กำลังใจยามลูกท้อแท้แก้ปัญหาไม่ได้ ท่านเป็นเพื่อนปรับทุกข์ ช่วยคลี่คลายทุกข์หนักให้เป็นเบา ยามป่วยไข้ช่วยดูแลรักษา ด้วยเหตุย่อ ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ท่านจึงเป็นเสมือนเทวดาประจำตัวของลูกตลอดชีวิตก็ว่าได้
(ยังมีต่ออีก)
No comments:
Post a Comment
Note: only a member of this blog may post a comment.